‘ก้อง’ คว้ากริด 5 โมโตทู ‘มาร์ติน’คว้าโพลฯโมโตจีพีพ่วงแชมป์ ‘สปรินท์ เรซ’

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ฤดูกาล 2023 สนามที่ 17 รายการโออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ระหว่าง 27-29 ตุลาคม 2566 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟาย รุ่น โมโตทู ผลปรากฏว่า “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” รีดความเร็วคว้ากริดที่ 5 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.788 วินาที ส่วน เฟร์มินอัลเดเกร์ นักบิดชาวสเปน จากทีมเบต้า ทูลส์ สปีดอัพ ทำเวลาดีสุด 1 นาที 35.3710 วินาที คว้าโพล โพซิชั่น

ส่วนในรุ่น โมโตจีพี ผลปรากฏว่า ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปนจากทีมพริมา พรามัค เรซซิ่ง ทำเวลาต่อรอบดีสุด 1 นาที 29.2870 วินาที คว้าโพล โพซิชั่นไปครอง ตามมาด้วย ลูกา มารินี จากอิตาลี สังกัดทีมมูนีย์ วีอาร์46 ออกสตาร์ตในกริดที่ 2 และ อเล็กซ์​ เอสปาร์กาโร นักบิดสเปนจากทีมอพริเลีย เรซซิ่ง ออกสตาร์ตในกริดที่ 3 

ส่วนการแข่งขันสปรินท์ เรซ “ทิสโซต์ สปรินท์” ในรุ่นโมโตจีพี 13 รอบสนาม ผลปรากฏว่า ฮอร์เก มาร์ติน เข้าป้ายเป็นอันดับ 1 เก็บเพิ่มอีก 12 แต้ม อันดับ 2 เป็น แบรด บินเดอร์ นักซิ่งจากแอฟริกาใต้ สังกัดทีมเรด บูลล์ เคทีเอ็ม แฟคทอรี เรซซิ่ง เวลาตามหลัง 0.933 วินาที เก็บเพิ่มอีก 9 คะแนน ส่วน ลูกา มารินี และ มาร์ก มาร์เกซ อดีตแชมป์โลก 6 สมัยชาวสเปน จากทีมเรปโซล ฮอนด้า เข้าป้ายอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของรุ่น โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมนี้ ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 และ True Visions SPOTV

ด้านบรรยากาศการต้อนรับแฟนกีฬาความเร็ว กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนรมิตโซนต้อนรับด้านหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้เป็นจุดเช็กอิน โชว์วิถีหม่อนไหมแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Silk of Buriram” ขณะที่กิจกรรมตลอดวัน ประเดิมด้วย HERO WALK ที่แฟนโมโตจีพีรอคอย กับการนำนักบิดเดินบนพรมแดง พบปะแฟนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกิจกรรม Pit Lane Walk ชมการทำงานในพิตของนักแข่ง

ญี่ปุ่นเสียแชมป์! “สิงคโปร์” ขึ้นแท่น พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

เป็นเวลานานถึง 5 ปีแล้วที่ญี่ปุ่นยังคงครองตำแหน่งอันดับ 1 “พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก” ในดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์ (Henley Passport Index) ซึ่งพิจารณาจากเสรีภาพในการเดินทางทั่วโลกในแง่ของการเดินทางไปประเทศ/พื้นที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า (Free Visa) หรือขอรับการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival)

แต่ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดประจำไตรมสา 3 ปี 2023 ญี่ปุ่นถูกโค่นและตกลงมาเป็นอันดับ 3 และผู้ครองตำแหน่งคนใหม่คือ “สิงคโปร์”

 ญี่ปุ่นเสียแชมป์! “สิงคโปร์” ขึ้นแท่น พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

โดยผู้ถือพาสปอร์ตสิงคโปร์สามารถเดินทางไปยังปลายทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ถึง 192 ประเทศ/พื้นที่ จาก 226 แห่ง

แต่ในขณะที่ชาติเอเชียอย่างสิงคโปร์ครองตำแหน่งแชมป์ พาสปอร์ตชาติยุโรปก็ฟื้นตัวเช่นกัน โดย เยอรมนี อิตาลี และสเปน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ด้วยการเข้าถึงจุดหมายปลายทาง 190 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า

ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่ 3 มีออสเตรีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก และสวีเดน รั้งตำแหน่งร่วมด้วย พาสปอร์ตประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง 189 แห่งได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า

แต่ทางด้านมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรต่างก็อยู่ในเส้นทางขาลงนับตั้งแต่ปี 2014 ที่เคยครองตำแหน่งอันดับ 1 ร่วมกัน โดยล่าสุดสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับ 4 ส่วนสหรัฐฯ ตกไปถึงอันดับ 8

ดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์อิงตามข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และจัดอันดับหนังสือเดินทาง 199 เล่มทั่วโลก มีการอัปเดตข้อมูลตามเวลาจริงตลอดทั้งปีเมื่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายวีซ่าต่าง ๆ มีผลบังคับใช้

ในเอกสารเผยแพร่ล่าสุด เฮนลีย์ระบุว่า ตลอดประวัติศาสตร์ของการจัดอันดับพาสปอร์ต ซึ่งมีมานานกว่า 18 ปี พบว่า จำนวนจุดหมายปลายทางโดยเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 58 แห่งในปี 2006 เป็น 109 แห่งในปัจจุบัน

แต่พาสปอร์ตของประเทศไทยเรานั้นถือว่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ย เพราะเดินทางไปได้โดยไม่ต้องวีซ่าเพียง 79 แห่งเท่านั้น อยู่ในอันดับที่ 64 ของโลก

นอกจากนี้ ช่องว่างด้านเสรีภาพในการเดินทางระหว่างผู้ที่อยู่ด้านบนและด้านล่างของการจัดอันดับนั้นกว้างกว่าที่เคย โดยพลเมืองของอัฟกานิสถานสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องวีซ่าได้เพียง 27 แห่ง ส่วนอิรักอยู่ที่ 29 ปลายทาง และซีเรียไปได้ 30 ปลายทาง

คริสเตรียน เคลิน ประธานบริษัทเฮนลีย์ตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้พยายามยกระดับเสรีภาพในการเดินทางของพลเมืองตนเองมากขึ้นโดยในเวลาเพียง 10 ปี สามารถขยายจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 25 แห่ง

สำหรับอันดับพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำไตรมาส 3 ปี 2023 เป็นดังนี้:

1. สิงคโปร์ (192 จุดหมายปลายทาง)

2. เยอรมนี อิตาลี สเปน (190 จุดหมายปลายทาง)

3. ออสเตรีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก เกาหลีใต้ สวีเดน (189 จุดหมายปลายทาง)

4. เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร (188 จุดหมายปลายทาง)

5. เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก มอลตา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ (187 จุดหมายปลายทาง)

6. ออสเตรเลีย ฮังการี โปแลนด์ (186 จุดหมายปลายทาง)

7. แคนาดา กรีซ (185 จุดหมายปลายทาง)

8. ลิทัวเนีย สหรัฐอเมริกา (184 จุดหมายปลายทาง)

9. ลัตเวีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย (183 จุดหมายปลายทาง)

10. เอสโตเนีย ไอซ์แลนด์ (182 จุดหมายปลายทาง)

ส่วนพาสฟอร์ตที่มีอิทธิพลน้อยที่สุด มีฟรีวีซ่าน้อย 30 ประเทศ ได้แก่:

101. ซีเรีย (30 จุดหมายปลายทาง)

102. อิรัก (29 จุดหมายปลายทาง)

103. อัฟกานิสถาน (27 จุดหมายปลายทาง)

เรียบเรียงจาก CNN/Henley Passport Index

ภาพจาก AFP

วุ่น! ทหารอเมริกันนายหนึ่ง “จงใจ” ข้ามแดนจากเกาหลีใต้ไปเกาหลีเหนือ

ยุคสมัย “แอนโทรโพซีน” คืออะไร? สำคัญอย่างไรกับมนุษยชาติ?

ชายออสซี่และสุนัขรอดตายกลางทะเล 2 เดือน กิน "ปลาดิบ-น้ำฝน" ประทังชีวิต คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง