เลือกตั้ง 2566 – โค้งสุดท้ายย้ายค่าย ข้ามขั้ว ก่อนเลือกตั้ง

การเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เคาะวันเลือกตั้งออกมาแล้ว นั้นคือ…. วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 รวมถึงวันรับสมัครเลือกตั้ง ก็ไล่เรียงตามไทม์ไลน์ที่ กกต.แถลงออกมาทั้งหมด แต่สิ่งที่น่าจับตาต่อ คือ การย้ายพรรค ย้ายขั้วทางการเมืองครั้งกำลังเป็นที่น่าสนใจ เรียกได้ว่า "ฝุ่นตลบ" เลยทีเดียว

เรื่องปกติก่อนการเลือกตั้ง ที่นักการเมืองจะย้ายค่ายย้ายขั้วอยู่แล้ว ถ้าย้ายแบบแรก คือ พรรคฝั่งรัฐบาลย้ายไปอยู่ขั้วร่วมรัฐบาล

เช่น พลังประชารัฐ ย้ายไปภูมิใจไทย หรือ ประชาธิปัตย์ ย้ายไปภูมิใจไทย เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้าน ที่ย้ายในขั้วเดียวกันซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีความแปลกอะไร

แต่สิ่งที่แปลกเลย คือ การย้ายข้ามขั้วชนิดที่ว่า เปรีบยให้เห็นแบบ ย้านจากขั้วโลกเหนือ ไปอยู่ขั้วโลกใต้เลย ทำให้ในห้วงเวลา 2-3 สัปดาห์จะเห็นแบบนี้อยู่ตลอด

ก่อหน้ามีให้เห็น มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เดิมเคยอยู่พรรคเศรษฐกิจใหม่ ในการเลือกตั้งหลังปี 2562 ส.ส.หลายคนในพรรคไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่มิ่งขวัญ ยังอยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในพรรคเดียวกันแตกออกเป็น 2 ขั้ว ก่อนที่จะประกาศลาออกจาก ส.ส.ไป คีย์สำคัญที่ประกาศชัดอยู่แล้ว คือ การไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่นานก็ย้ายข้ามมาอยู่กับพลังประชารัฐ ซึ่งคำตอบของมิ่งขวัญ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่แล้ว แต่คำถามที่อยากถามต่อ ว่าเรื่องนี้มิ่งขวัญ มองอย่างไร พล.อ.ประวิตร เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารที่ผ่านมาหรือไม่ และใน 3 ป.เอง พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวหรือ ? แล้วหากในอนาคตข้างหน้า พลังประชารัฐ จำต้องไปจับมือกับ รวมไทยสร้างชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จุดยืนของมิ่งขวัญ จะทำอย่างไร ถ้าพล.อ.ประวิตร ไปรวมกับพล.อ.ประยุทธ์จริง

มิ่งขวัญ ตอบส้ั้นๆ ว่า "ยังไม่รู้" เพราะถ้าจะให้ตอบ ต้องไปดูวันที่ประกาศผลการเลือกตั้ง เพราะเข็ดแล้ว กับการพูดอะไร เมินอะไรต่างๆ นานๆไปก่อน

อีกคนหนึ่ง สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ย้ายข้ามไปเพื่อไทย เพราะลม ฟ้า อากาศเปลี่ยน จึงต้องย้ายขั้วทางการเมือง 40 ปี ที่เล่นการเมือง อยู่ข้างที่ชนะมาตลอด

ส่วนการย้ายข้ามขั้วแบบสุดๆ คงหนีไม่พ้น ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ที่ย้ายไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ สมัยอยู่เพื่อไทย ศรัณย์วุฒิ ถูกวางตัวให้อภิปรายโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ อยู่หลายหน แต่มีช่วงหนึ่งที่เกิดความน้อยใจ ที่ไม่ได้อภิปรายในศึกซักฟอก ต้องย้ายพรรค ไปอยู่เพื่อชาติ แว่วว่าก่อนหน้านี้จะไปอยู่เสรีรวมไทย ท้ายที่สุดก็แถลงข่าวจะไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ จึงต้องจับตาว่า การย้ายขั้ว ย้ายข้างแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นตามมาของการเลือกตั้ง

ณ เวลานี้ที่คนกำลังตั้งคำถามอยู่ 2 เรื่อง คือ ก่อนจะมีการรับสมัคร รับเลือกตั้ง วันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเกือบๆ 2 สัปดาห์ จะเกิดความชุลมุนขนาดไหน ย้ายในขั้วเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องปกติ "ตกปลาในบ่อพี่ ตกปลาในบ่อเพื่อน" ไม่แปลกหรอก

แต่ย้ายข้ามขั้ว ย้ายข้ามค่าย ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องจับตาต่อ เพราะจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ บางพรรคถือขั้น มีการให้เซ็นต์สัญญาเพื่อป้องกันการย้ายพรรค

ในมุมของ อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารฯ มธ. มองว่าต้องจับตาก่อนวันที่ 3 เม.ย.ให้ดีว่าจะมีการย้ายพรรค ข้ามขั้วอีกหรือไม่ เพราะมีเวลาพอสมควร การเมืองไทยหลังจากนี้ไม่ต่างอะไรกับตลาดนักแตะเลย เชื่อว่ามีการเกิดขึ้นอีกแน่นนอน

อ.ปริญญา ยังมองว่า การย้ายข้ามขั้วไปเลย ถือว่ามีผลต่อคะแนน เปรียบเทียบให้เห็น ถ้าประชาชนเลือก ส.ส.คนนั้นเพราะอยู่พรรคนี้ แต่มาวันหลังย้ายไปอยู่พรรคที่ประชาชนไม่ชอบ เขาก็อาจไม่ชนะในรอบนี้ เพราะประชาชนเลือกพรรค

 เลือกตั้ง 2566 - โค้งสุดท้ายย้ายค่าย ข้ามขั้ว ก่อนเลือกตั้ง

อธิบายง่ายๆ ส.สคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. คนนี้เคยอยู่ฝ่ายค้าน เพราะชอบ เพราะรัก วันหนึ่งย้ายไปฝั่งขั้วรัฐบาล ก็อาจตัดสินใจไม่กากก็เป็นไปได้

ดังนั้น การย้ายจากข้างเดิม ก็จะเสียฐานคะแนนจากข้างเดินพอสมควร ส่วนขั้วใหม่จะเติมได้เท่าไหร่ จุดชี้วัดจะอยู่ตรงนี้

ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดร่วง 250 บาท ขายทำกำไรก่อนประชุมเฟด 2-3 พ.ค.

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศ (28 เม.ย.66) ปิดตลาดลดลง 250 บาท จากราคาตลาดสปอตร่วงทั้งวัน ขณะที่ค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ทองในประเทศถูกลง

  • ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 31,950.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,050.00 บาท/บาททองคำ
  • ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,381.20บาท/บาททองคำ และขายออก 32,550.00 บาท/บาททองคำ

ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,982.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 34.11บาท/ดอลลาร์

ราคาทองคำฟิวเจอร์ขยับขึ้นเกือบ 10% ตั้งแต่ต้นปี ตลาดคาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ราคาทองคำในวันศุกร์ยังยืนอยู่ได้ใกล้ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นเดือนที่สองทื่ราคาขยับขึ้น จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้นักลงทุนโยกซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในสัปดาห์นี้ ตลาดจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้

ทองสปอต เล็กน้อยง 0.2% อยู่ที่ 1,983 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่เดือนนี้ปรับขึ้นมาราว 1% ส่วนทองคำฟิวเจอร์ ลดลง0.2% อยู่ที่ 1,995 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงท้ายตลาดเอเชีย

เทรดเดอร์กล่าวว่านักลงทุนระมัดระวังก่อนการประชุมเฟด โดยราคาทองคำพยายามขึ้นไปทำฐานใหม่ที่ระดับเหนือ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่จะไปได้หรือไม่ขึ้นกับการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

หลายปัจจัยเสี่ยงที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ช่วยหนุนราคาทองคำ ทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยราคาทองขึ้นไปแตะสูงสุดของปีนี้ที่2,048.71 ดอลลาร์/ออนซ์ จากวิกฤติธนาคารในสหรัฐ

การเคลื่อนไหวราคาทองสปอตในวันศุกร์

 ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดร่วง 250 บาท ขายทำกำไรก่อนประชุมเฟด 2-3 พ.ค.

ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง มองแนวโน้มราคาทองปรับตัวลง โดยทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ แนะให้เปิดสถานะขาย ถ้าหลุด 1,970 ดอลลาร์

ราคาทองคำ Spot ช่วงกลางวันปรับตัวลงเล็กน้อย โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตลาดมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวลงไม่มาก เนื่องจากยังมีแรงซื้อทองคำ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ จากที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวมากกว่าที่คาดในไตรมาส 1 และการปล่อยกู้ฉุกเฉินของเฟดแก่ธนาคารต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ล่าสุด นอกจากนี้ทำเนียบขาวก็จับตาธนาคาร FRB หลังมีรายงานว่าลูกค้า FRB แห่ถอนเงินออกมาอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนมี.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 43.6 จาก 43.8 ในเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 63.5

แนวโน้มราคาทองคำ แท่งเทียนของราคาทองคำมี high ที่ลดลงเรื่อย ๆ ขณะที่ MACD และ Signal Line มีค่าน้อยกว่า 0 ในกราฟราคาทองคำราย 2 ชม. ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับลดลงไปสู่ระดับ 1,970 ดอลลาร์ ทั้งนี้ระยะสั้นทองคำมีแนวรับ 1,970 ดอลลาร์ (GF 32,140 บาท) และ 1,950 ดอลลาร์ (GF 32,060 บาท) ส่วนแนวต้าน 1,990 ดอลลาร์ (GF 32,360 บาท) และ 2,000 ดอลลาร์ (GF 32,480 บาท)ฃ

สำหรับ Gold Online Futures มีแนวรับที่ 1,990 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 2,010 ดอลลาร์ และ 2,020 ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเปิดสถานะขาย เมื่อราคาทองคำ spot หลุดบริเวณ 1,970 ดอลลาร์ (GF 32,140 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,980 ดอลลาร์ (GF 32,220 บาท) การลงทุนใน Gold Online แนะนำเปิดสถานะขาย หากเมื่อราคาสัญญา GOM23 หลุดบริเวณ 1,990 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 2,000 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

  • แนวรับ 1,970 และ 1,950 ดอลลาร์
  • แนวต้าน 1,990 และ 2,000 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

  • แนวรับ 32,000 และ 31,900 บาท
  • แนวต้าน 32,200 และ 32,300 บาท

คู่นี้ยังไง- “เชียร์ ฑิฆัมพร – ไฮโซบิ๊ก” ถูกโยงคู่รักมาดเท่เลิกเงียบ หลังไร้รูปคู่พั…

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีคู่รักคนบันเทิงสะบั้นความสัมพันธ์คู่ ล่าสุดมาอีกแล้วกับปริศนาคำใบ้คู่รักส่อแววเลิกมาอีกครั้ง หลังเพจดังโพสต์ ‘คู่รักมาดเท่อันฟอลโล่วกันอีกคู่ หรือจะเลิกเงียบอีกแล้ว?’

ทำเอาขาเผือกตาลุกวาว และพุ่งเป้าไปที่หลายคู่ แต่ดูเหมือนว่าคู่ของดาราสาว “เชียร์ – ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ กับแฟนไฮโซหนุ่มทายาทตระกูลดัง “บิ๊ก – ธนพนธ์ เบญจรงคกุล” ที่ถูกจับสังเกตว่าไร่รูปคู่มานานเกือบ 4 เดือน

รวมไปถึงเมื่อไล่ดูในอินสตาแกรมของนักแสดงสาวก็พบว่าไม่ได้กดติดตามอินสตาแกรมของฝ่ายชาย ในขณะที่หนุ่ม “บิ๊ก” ยังกดติดตามอยู่เหมือนเดิม

หากย้อนกลับไป ประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว “เชียร์” เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ “พีพีทีวี” ถึงเรื่องความรักว่าฝ่ายชายยังคงดูแลดี โดยเฉพาะการตามรับตามส่งตลอด เมื่อตนเองต้องมารับบทบาทใหม่คือการเป็นผู้ประกาศข่าว ส่วนใกล้จะถึงคิววิวาห์รึยัง เจ้าตัวบอกไม่ได้คุยเรื่องนี้กันจริงจัง ยังไม่รีบกันทั้งคู่ ขอโฟกัสงานเป็นหลัก

เอาเป็นว่า “เชียร์ – บิ๊ก” จะคู่รักกลายเป็นคู่ร้างจริงรึไม่? ต้องให้เจ้าตัวออกมาพูดด้วยตัวเองจะดีและชัดเจนที่สุด เพราะมีบางกระแสเปิดเผยว่าสาว "เชียร์" ได้ไม่กดติดตามอินสตาแกรมของแฟนหนุ่มแต่แรกแล้ว

“เชียร์ ฑิฆัมพร” แจงสาเหตุโพสต์เดือดกลางไอจี ลั่นความรับผิดชอบสำคัญมาก

“เชียร์ ฑิฆัมพร” เผยมุมความรักที่เปลี่ยนไป หลังเจอ “ไฮโซบิ๊ก”

  คู่นี้ยังไง- “เชียร์ ฑิฆัมพร – ไฮโซบิ๊ก” ถูกโยงคู่รักมาดเท่เลิกเงียบ หลังไร้รูปคู่พั...

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ขอบคุณภาพ IG cheeryny14 , bickbencharongkul

โออาร์-บางจาก ลดเบนซินทุกชนิด สูงสุด 2.50 บาท มีผล 7 พ.ย.66 ตามมติ ครม.

ลดเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 อย่างละ 1 บาทต่อลิตร รวม 2.50 บาท

พีระพันธุ์ โพสต์แจ้งเอง ครม.ลดราคาเบนซิน 91 ลง 2.50 บาท

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 66 บริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศปรับราคาน้ำมันพรุ่งนี้ โดยเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 1 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร ส่วน E85 และ E20 ลดลง 0.80 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลในวันที่ 7 พ.ย. 66 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

 โออาร์-บางจาก ลดเบนซินทุกชนิด สูงสุด 2.50 บาท มีผล 7 พ.ย.66 ตามมติ ครม.

ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ประกาศดังกล่าวเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน ซึ่งให้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตลงสำหรับน้ำมันเบนซินทั้งแก๊สโซฮอล์​ 91 และ 95ลงในอัตรา 1 บาทต่อลิตรเท่ากัน แต่ในส่วนแก๊สโซฮอล์​ 91 นั้น ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการเพิ่มเติมเอง เพื่อให้ลดได้ถึง 2.50 บาทต่อลิตร

สำหรับการปรับลดครั้งนี้ จะมีผลในระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 7 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป

ด้านน้ำมันดิบตลาดโลก วันนี้ราคาขยับสูงขึ้น หลังผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกทั้งซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าลดกำลังผลิตรวม 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยาวไปจนถึงสิ้นปี 66

นักวิเคราะห์ ประเมินว่า การปรับลดดังกล่าวอาจมีผลไปจนถึงต้นปีหน้า 67 เนื่องจากความต้องการน้ำมันที่ลดลงตามฤดูกาลในช่วงต้นปี รวมถึงความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป้าหมายของโอเปกพลัส ที่ต้องการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดกำลังจับตาจีนผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ซึ่งเตรียมจะประกาศตัวเลขการส่งออกของจีน เดือน ต.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ในวันพรุ่งนี้ โดยผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่า จะลดลง 3.3% เมื่อเทียบรายปี

ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบทั่วโลกล่าสุดวันนี้

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ล่าสุดอยู่ในระดับ 86.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับขึ้น0.66%
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ล่าสุดอยู่ในระดับ 81.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 0.80%

"เศรษฐา" สั่ง "ปานปรีย์" ศึกษาความเหมาะสม ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ

เรอัล มาดริด แถลงการณ์โต้ข่าวลือดีล "เอ็มบัปเป้"

“ต้องเต” หวังรัฐจริงจังผลักดันภาพยนตร์ไทย รองเลขาฯ นายกแจง ไม่คิดเคลมความสำเร็จ “สัปเหร่อ”

นักวิทย์พบจุลินทรีย์บางชนิด ย่อยสลายพลาสติกในอุณหภูมิต่ำได้

“การใช้จุลินทรีย์ย่อยพลาสติก” เป็นหนึ่งในแนวทางการจัดการขยะพลาสติกที่เป็นที่พูดถึงมากในปัจจุบัน และที่ผ่านมา มีการค้นพบจุลินทรีย์จำนวนมากที่สามารถทำเช่นนี้ได้

อย่างไรก็ดี โดยปกติแล้ว จุลินทรีย์จำพวกนี้จะสามารถทำงานได้ในสภาวะที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากต้องการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมจะมีราคาแพงและไม่เป็นกลางทางคาร์บอน เนื่องจากต้องใช้ความร้อนร่วมด้วย

แต่ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันแห่งสหพันธรัฐสวิส WSL ได้ค้นพบจุลินทรีย์ในเทือกเขาแอลป์และภูมิภาคอาร์กติกที่สามารถย่อยพลาสติกได้แม้ในสภาวะที่อุณหภูมิต่ำเพียง 15 องศาเซลเซียส ทำให้อาจเป็นเครื่องมือใหม่ในการจัดการขยะพลาสติก

นักวิทย์พบอีกสาเหตุสำคัญ ทำธารน้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่คาด

พบ “ครึ่งหินครึ่งพลาสติก” เมื่อมนุษย์กำลังเปลี่ยนธรณีวิทยาของโลก

เราจะทำร้ายธรรมชาติอีกแค่ไหนคำพูดจาก สล็อตวอเลท? พบโรคใหม่ในนกทะเล เกิดจาก “ขยะพลาสติก”

ดร.โจเอล รูธี จาก WSL และทีมวิจัย ได้สุ่มตัวอย่างแบคทีเรียและเชื้อรา 15 ที่เติบโตบนพลาสติกที่วางอยู่เฉย ๆ หรือถูกฝังไว้ในดินเป็นเวลา 1 ปีในกรีนแลนด์ สวาลบาร์ด และสวิตเซอร์แลนด์

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นแบคทีเรีย 13 ชนิดในกลุ่มแอคติโนแบคทีเรีย (Actinobacteria) และโปรตีโอแบคทีเรีย (Proteobacteria) และเชื้อรา 10 ชนิดในกลุ่มแอสโคไมโคตา (Ascomycota) และมิวโคโรไมโคตา (Mucoromycota)

จากนั้นนำจุลินทรีย์เหล่านี้มาเพาะเลี้ยงในห้องทดลองในความมืดที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส และทดสอบเพื่อดูว่า พวกมันสามารถย่อยพลาสติกประเภทต่าง ๆ ได้หรือไม่

พลาสติกที่นำมาทดสอบประกอบด้วย โพลิเอทิลีน (PE) และโพลิยูรีเทน (PUR) รวมถึงส่วนผสมที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีจำหน่ายในท้องตลาด 2 ชนิด ได้แก่ โพลิบิวทิลีน อะดิเพต เทเรฟทาเลต (PBAT) และโพลิแลกติกแอซิด (PLA)

พลการทดลองพบว่า ไม่มีจุลินทรีย์สายพันธุ์ใดที่สามารถย่อย PE ได้ แม้ว่าจะบ่มพลาสติกเหล่านี้เป็นเวลานานถึง 126 วันแล้วก็ตาม แต่มีแบคทีเรีย 8 สายพันธุ์ และเชื้อรา 11 สายพันรธุ์ สามารถย่อย PUR ได้ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ แบคทีเรีย 3 สายพันธุ์และเชื้อรา 14 สายพันธุ์สามารถย่อยส่วนผสมพลาสติกของ PBAT และ PLA ได้

รูธีกล่าวว่า “นี่แสดงให้เห็นว่าจุลินทรีย์บางชนิดในดินบนเทือกเขาแอลป์และอาร์กติกสามารถช่วยลดต้นทุนและภาระด้านสิ่งแวดล้อมของกระบวนการรีไซเคิลพลาสติกด้วยเอนไซม์ได้”

เขากล่าวว่า เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่สายพันธุ์ส่วนใหญ่ของจุลินทรีย์ที่สุ่มเก็บมา สามารถย่อยสลายพลาสติกได้อย่างน้อย 1 ชนิด

นักวิทยาศาสตร์ยังได้ทดสอบหาจุลินทรีย์ตัวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด และพบว่าเชื้อรา 2 สายพันธุ์ในสกุล นีโอเดฟรีเซีย (neodevriesia) และ แลคเนลลูลา (lachnellula) มีศักยภาพดีที่สุด เพราะสามารถย่อยพลาสติกที่นำมาทดสอบได้ทุกชนิดยกเว้น PE

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดสอบความสามารถของจุลินทรีย์ในการย่อยสลายพลาสติกที่อุณหภูมิเดียวเท่านั้น จึงยังไม่พบว่าจริง ๆ แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดควรอยู่ที่เท่าไร อย่างไรก็ตาม พวกเขาบอกว่าพวกมันทำงานได้ดีระหว่าง 4-20 องศาเซลเซียส

เรียบเรียงจาก The Guardian

ภาพจาก AFP

 นักวิทย์พบจุลินทรีย์บางชนิด ย่อยสลายพลาสติกในอุณหภูมิต่ำได้

“ชูวิทย์” ซัดตั้งรัฐบาลสุดซอย เตรียมแฉครั้งสุดท้ายถลกหนัง “นายกฯ ตัวสูง”

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว วิพากษ์วิจารณ์การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า จัดรัฐบาล “สุดซอย” สิ้นสุดการเลือกตั้ง ประชามติโหวตให้ฝั่ง “ประชาธิปไตยสองพรรคหลัก” ชนะ ก้าวไกล “ฝันดี” ไม่คิดว่าจะได้มากเป็นอันดับ 1 เพื่อไทย “ฝันร้าย” ไม่คิดว่าจะตกเป็นอันดับ 2 สองพรรคจับมือร่วมตั้งรัฐบาล เซ็น MOU กันเอิกเกริก ชูนายพิธาก้าวไกลเป็นนายกฯ

เรื่องราวน่าจะจบลงด้วยดีตั้งแต่ “ต้นซอย” กลับไปเดินสะดุดเอาที่ “กลางซอย” เมื่อสองพรรคทะเลาะเบาะแว้งเรื่อง “ประธานสภา” ส่ออาการไม่ลงรอยงัดกันเองแย่งตำแหน่ง “ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ” วันสุดท้ายก้าวไกลพลาดท่ากลายเป็นได้ “อาจารย์วันนอร์”

จากนั้นถึงโหวตนายกฯ ส.ว. เอา “ปูนกาหัว” นายพิธาก้าวไกลเรื่อง ม.112 พลาดตำแหน่งนายกฯ ซ้ำด้วยศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.สคำพูดจาก สล็อตวอเลท. ก้าวไกลชอกช้ำ ต้องยกหน้าที่ให้เพื่อไทยคู่ข้าวต้มมัดจัดรัฐบาลแทน เดินมาถึง “ปลายซอย” เกมการเมืองพลิก เพื่อไทยตัดสินใจเดินสาย “สลายขั้ว” เพราะรู้ว่าไม่มีทางจัดตั้งรัฐบาลได้ หากไม่หิ้วพรรค 2 ลุงไปด้วย ยกเอา “วิกฤตบ้านเมือง” ประเทศต้องเดินหน้า สงครามจบแล้วไม่มีแบ่งฝ่าย รวมได้หมด ทั้งภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์

“เพื่อไทยดันทุรังจนมาถึง “สุดซอย” เดินแบบ “ย่ามใจ” คิดว่าออกได้ กลับบ้านแน่ แต่กลับเป็น “ซอยตัน” ไม่มีทางออกไปไหน”

นายชูวิทย์ยังระบุอีกว่า 9 ปีก่อนเมื่อปี 57 เพื่อไทยก็จัด “นิรโทษกรรมสุดซอย” ปีนี้ 66 กำลังจัด “รัฐบาลสุดซอย” ทางกว้างๆ ไม่เดิน ชอบเดินเข้าซอยตัน ขาย “อุดมการณ์” ทิ้ง แลกการเป็นรัฐบาล ที่เคยป่าวประกาศประสานเสียงว่า “ไม่เอาพรรค 2 ลุง” ล้วนเป็นเพียงมหกรรม “เทคนิคการหาเสียง” ส่วนที่ผ่านมากับก้าวไกลเป็นการ “ตบหน้ากลางศาลา” แต่ทำทีไป “ขอขมาที่บ้าน” อ้อนให้โหวตนายกฯ แต่ดูท่าก้าวไกล “งดออกเสียง”

แผนสุดท้ายแบไต๋ ทั้ง 2 ลุง ประกาศไม่รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล ยกให้นายกฯ “ตัวสูง” แทน “ตัวอ้วน” มาเสนอตัวรับใช้บ้านเมือง แต่เจอซีรี่ย์แรก “12 คน โอน 12 วัน เลี่ยงภาษี” ตอนต่อไป “ปั่นที่ บวมเงิน ตัดตอน” รวม EP ให้กระชับ เพราะเวลามีน้อย

“ปรากฏการณ์ “ตกสวรรค์” ของนายกฯ ตัวสูง จะถูกถลกหนังในสภาว่าด้วยเรื่อง “คุณสมบัติ” ของความซื่อสัตย์ แฉครั้งสุดท้าย ต้องมันถึงใจพระเดชพระคุณ ก่อนจากลา ผ้าม่านปิด”

 “ชูวิทย์” ซัดตั้งรัฐบาลสุดซอย เตรียมแฉครั้งสุดท้ายถลกหนัง “นายกฯ ตัวสูง”

“ทรัมป์” เผย ถ้าได้เป็นประธานาธิบดี “จะขอเป็นเผด็จการแค่ 1 วัน”

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งใหม่ในปี 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ถึง 1 ปีข้างหน้า ทำให้ช่วงนี้อาจเห็นหน้าค่าตาผู้สมัครตัวเต็งได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะประธานาธิบดี โจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

การกลับมาของทรัมป์สร้างความกังวลต่อประชาชนบางกลุ่ม เนื่องจากกลัวว่า หากทรัมป์เรืองอำนาจ จะเกิดการลดทอนคุณค่าความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ รวมถึงเขาจะใช้อำนาจในทางที่มิชอบหรือไม่

รัสเซียยึดรถหุ้มเกราะสหรัฐฯ ในยูเครน เปิดช่องหาจุดอ่อน

ไบเดนเผย หาก “ทรัมป์” ไม่ลงเลือกตั้ง เขาก็อาจไม่ชิงตำแหน่งปธน.เช่นกัน

“ทรัมป์” ขู่ดำเนินคดี “ไบเดน” ทั้งครอบครัว หากชนะเลือกตั้ง 2024

ล่าสุดในการสัมภาษณ์กับรายการในช่อง Fox News เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ทรัมป์ถูกถามว่า เขาจะใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือหาทางแก้แค้นศัตรูทางการเมืองของเขาในฐานะประธานาธิบดีหรือไม่

ทรัมป์พยายามเลี่ยงคำถามในทีแรก แต่สุดท้ายก็ตอบแบบทีเล่นทีจริงว่า เขาจะ “เป็นเผด็จการแค่ในวันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น” เพื่อจัดการกับปัญหาชายแดนและการผลิตน้ำมันในประเทศ

ทรัมป์บอกว่า “ถ้าถามว่า ‘คุณจะไม่เป็นเผด็จการใช่ไหม’ ผมจะพูดว่า ‘ไม่ ไม่เป็น ยกเว้นวันแรก’ เรากำลังปิดพรมแดน และเรากำลังขุดเจาะ เจาะ และเจาะ หลังจากนั้นผมก็จะไม่ใช่เผด็จการ”

แม้ทรัมป์จะตอบอย่างนั้น แต่มีรายงานว่า การรณรงค์หาเสียงและพันธมิตรของทรัมปวางแผนที่จะใช้อำนาจบริหารในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหากเขาได้รับเลือกอีกครั้ง

แผนของทรัมป์ยังรวมถึงการทำให้อำนาจของทำเนียบขาวอยู่เหนือกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นสถาบันที่อดีตประธานาธิบดีเคยกล่าวว่า เขาจะใช้เพื่อแก้แค้นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เขา ซึ่งรวมถึงอดีตพันธมิตรด้วย

เมื่อเดือนมิถุนายน ทรัมป์บอกว่า “ผมจะแต่งตั้งอัยการพิเศษเพื่อเฝ้าระวังติดตามประธานาธิบดีที่ทุจริตที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โจ ไบเดน และครอบครัวอาชญากรรมไบเดนทั้งหมด”

หรือในระหว่างการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขากล่าวว่า “หากผมได้เป็นประธานาธิบดี และเห็นใครสักคนที่ทำผลงานได้ดีกว่าผม ผมก็จะลงไปฟ้องพวกเขา”

เขายังได้วางแผนการที่จะทำลายระบบยุติธรรมในปัจจุบันด้วยการไล่อัยการลัทธิมาร์กซิสต์หัวรุนแรงที่กำลังทำลายอเมริกาออกจากตำแหน่ง

นี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำลายข้อจำกัดทางกฎหมายและการคุ้มครองแบบดั้งเดิมจากการแทรกแซงทางการเมือง และทำให้ทำเนียบขาวมีอำนาจมากขึ้นในการจัดตั้งพันธมิตรทางอุดมการณ์ทั่วทั้งรัฐบาลกลางคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง

ส่วนหนึ่งของแผนของทรัมป์จะจัดประเภทพนักงานราชการหลายหมื่นคน ซึ่งเดิมทีถูกจัดให้เป็นเจ้าหน้าที่และฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี เปลี่ยนเป็น พนักงานแบบตามใจ (At-Will Employment) ซึ่งเป็นแรงงานประเภทที่สามารถถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ

ทรัมป์กล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่า เขาจะลงนามในคำสั่งผู้บริหารเพื่อทำเช่นนั้น เพื่อที่เขาจะสามารถ “กำจัดข้าราชการที่คดโกงได้” โดยสาบานว่าจะ “ใช้อำนาจนั้นอย่างแข็งกร้าว”

หากทรัมป์ได้รับเลือกในปีหน้าและดำเนินการตามแผนเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า มันจะนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลาหลายปีและการปะทะกันทางการเมืองกับสภาคองเกรสในเรื่องขีดจำกัดอำนาจของประธานาธิบดี

ด้วยท่าทีเหล่านี้ของทรัมป์ ทำให้ไบเดนออกมาบอกว่า คำข่มขู่ของทรัมป์เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาอาจต้องลงสมัครเลือกตั้งสมัยที่ 2

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ไบเดนบอกว่า ในงานระดมทุนสำหรับหาเสียงในปี 2024 นอกเมืองบอสตันว่า “ถ้าทรัมป์ไม่ลงสมัคร ผมไม่แน่ใจว่าจะลงสมัครหรือไม่ … เราไม่สามารถปล่อยให้เขาชนะได้”

เรียบเรียงจาก CNN

ภาพจาก JOSEPH PREZIOSO / AFP

ป.ป.ช. แจงยิบ ยืนยัน“ครูชัยยศ” ถูกปลดเพราะมีมูลความผิดอย่างร้ายแรง

ยูเนสโกประกาศแล้ว! "สงกรานต์" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ เคาะงบฯ 5,164 ล้าน ดัน 11 ด้านซอฟต์พาวเวอร์ไทย

 “ทรัมป์” เผย ถ้าได้เป็นประธานาธิบดี “จะขอเป็นเผด็จการแค่ 1 วัน”

“วันนอร์” ไม่สนฤกษ์โหวตนายกฯ รอศาลรัฐธรรมนูญ 16 ส.ค.นี้

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่มีการทำนายว่าวันที่ 18 สิงหาคม 2566 เป็นวันฤกษ์ดีและวันพลังแห่งอำนาจ ที่สยบราหูและขจัดความชั่วร้ายต่างๆ เหมาะแก่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า การจะนัดลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีวันไหน จะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ก่อนว่าจะออกมาในทิศทางใดซึ่งสามารถออกมาได้หลายประเด็นจึงต้องรอดูรายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลฯ ก่อน

หลังจากนั้นถึงจะกำหนดวันโหวตนายกรัฐมนตรีได้ โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาในช่วงเช้า ดังนั้นช่วงบ่ายก็น่าพอจะทราบ และ กำหนดท่าทีของเราได้

ยืนยันจะไม่มีการนัดล่วงหน้าก่อนเพราะเกรงจะเกิดความผิดพลาด และไม่อยากให้สมาชิกรัฐสภา ทั้ง สส.และ สว. ต้องเสียเวลา จึงรอคำวินิจฉัยออกมา แล้วหากจำเป็นต้องบรรจุระเบียบวาระการพิจารณากฎหมายก่อนก็บรรจุ และจะต้องนัดประชุมคณะกรรมการประสานงาน หรือวิปทั้ง 3 ฝ่าย โดยจะดูหน้างานในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ก่อน

ส่วนกรณีที่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นวันฤกษ์ดี เป็นวันพลังแห่งอำนาจ จะให้โหวตวันนั้นเลยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำว่าต้องดูคำวินิจฉัยของศาล รัฐธรรมนูญและดูความพร้อมของสภา ทั้ง สส.และ สว. โดยทุกฝ่ายจะต้องพร้อมซึ่งนัดนี้อยากให้จบไปด้วยดี

 “วันนอร์” ไม่สนฤกษ์โหวตนายกฯ รอศาลรัฐธรรมนูญ 16 ส.ค.นี้

“เศรษฐา”สั่งเพิ่มของขวัญ-ไอศครีม รับงานวันเด็กทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 17.28 น. วันที่ 12 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมาตรวจความเรียบร้อยในการจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) ซึ่งในทำเนียบรัฐบาลมีการจัดกิจกรรมหลากหลายทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนนายรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้ได้มาตรวจความเรียบร้อย ดูว่ามีไดโนเสาร์หรือไม่ ซึ่งสื่อมวลชน ได้บอกว่า แต่มีเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์จำลอง

“เศรษฐา” ไม่ตกเทรนด์! โชว์รูปย้อนอดีต ตามกระแสวันเด็ก

ทำเนียบฯ เตรียมซากไดโนเสาร์จำลอง รอรับน้องๆ ต้อนรับ “วันเด็ก 2567”

แจกที่เที่ยว “วันเด็ก 2567” ตามเส้นทางรถเมล์ นั่งฟรีทุกสาย เล่นได้ตลอดวัน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 “เศรษฐา”สั่งเพิ่มของขวัญ-ไอศครีม รับงานวันเด็กทำเนียบฯ

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินตามบูธต่างๆซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการจัดเตรียมงานเพื่อให้เกิดความพร้อมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงว่า กว่าตนจะเสร็จภารกิจจากกระทรวงศึกษาธิการในช่วงเช้า มาที่ทำเนียบรัฐบาลก็น่าจะสายและหากเด็กๆมารอจะร้อน จึงให้เจ้าหน้าที่ นำพัดลมมาเพิ่ม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่แต่ละบูธว่าของรางวัลที่นำมานั้นพอหรือไม่ ถ้าไม่พอก็ให้นำมาเพิ่ม

ภายหลังจากการเดินสำรวจบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ตนสนิทกับใคร ก็บอกให้เอาของขวัญมาเพิ่ม เพราะเกรงว่าจะหมดเร็วเกินไป เพราะเด็กที่มามีความคาดหวัง หากของรางวัลน้อย ก็เป็นสิ่งไม่ดี แล้วขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มไอศครีมเยอะเป็นพิเศษ เพราะเด็กที่มาร่วมงานอย่างน้อยไม่ได้ของรางวัลก็ยังได้กินไอศครีม เพราะไอศครีมก็สามารถทดแทนได้ ทั้งนี้เด็กที่มาร่วมงานที่ทำเนียบรัฐบาลก็มีความคาดหวังว่าจะได้รับประทานอาหาร เจอเพื่อนฝูง ได้รับความรู้ และหากโชคดีก็อาจมีของรางวัลติดมือ และแน่นอนว่าตนจะพานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง พร้อมกับ เชิญชวน ให้เด็กและเยาวชนมาร่วมงานที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีกิจกรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะมี ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ) นักมวยชื่อดัง ก็จะมาร่วมงาน

เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือไม่เนื่องจากมีคนมาเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็เป็นห่วง ซึ่งตนได้ตรวจเช็คโดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศ ห้องน้ำ และเครื่องดื่ม ซึ่งตนได้ระวังทุกเรื่อง

เมื่อถามว่า การชุมนุมใกล้เคียงจะส่งผลกระทบต่องานวันเด็กที่จะจัดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเด็กๆ เราเห็นต่างกันบางเรื่อง แต่เรื่องของอนาคตของชาติ เชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันเชื่อว่าไม่เป็นอุปสรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินสำรวจบริเวณโดยรอบได้มี ลูกหลานของเจ้าหน้า รวมถึงเจ้าที่จัดงานมาขอถ่ายรูปเป็นระยะ

เปิดสถิติหวยออกงวดวันที่ 17 มกราคม หวยวันครู ย้อนหลัง 15 ปี

มอเตอร์เวย์ M6 เปิดให้ใช้ฟรีตลอดปี 2567 เก็บค่าผ่านทางปี 2568

โปรแกรมฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบแรก นัดแรก 13 ม.ค 67

“เศรษฐา” ย้ำให้ความสำคัญดูแลขบวนเสด็จฯ แนะแสดงออกเวทีที่เหมาะสม

วันที่ 12 ก.พ. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเรื่องการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ว่า เมื่อวานนี้ตนได้หารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำชับและยืนยันว่าเรื่องมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความดูแลบุคคลสำคัญของประเทศ รวมทั้งให้สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ดูแลให้ดี ไม่อยากให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น อยากให้อยู่กันได้ด้วยความสามัคคีคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง

นายกฯหารือ ผบ.ตร. กำชับมาตรฐานการรปภ.บุคคลสำคัญ

ผบ.ตร. ขอเวลาไม่เกิน 2 วัน ออกหมายจับกลุ่มป่วนขบวนเสด็จ เชื่อมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง

ขอคนไทยเข้าใจขบวนเสด็จฯ ต้องทำการจราจรให้เรียบร้อย-ถึงที่หมายทันเวลา

และถ้ามีเวทีไหนที่เห็นต่างก็อยากให้ใช้เวทีที่เหมาะสม เช่น เวทีสภา เวทีนักวิชาการ มาพูดคุยกัน ทุกสถาบันรักและเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนการดำเนินคดีนั้นให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้งใด ๆ และอยากวิงวอนเรื่องการใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่บังควร

อย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วย ทุกสถาบันอยากเห็นความสามัคคี และแน่นอนสังคมมีความเห็นต่างกัน แต่ต้องมาพูดคุยใช้เวทีที่ปลอดภัย และไม่เป็นที่คุกคามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงจุดนี้ เนื่องจากปัจจุบันประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี ไม่อยากทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น อยากให้ลดการใช้กำลัง หรือการใช้ hate speech ใช้เวทีสาธารณะอื่นๆ มีการพูดคุยในเวทีที่ปลอดภัย ทั้งนี้เชื่อว่า ทุกฝ่ายอยากเห็นประเทศมีความปรองดอง สามัคคี เกิดบรรยากาศที่พูดคุยกันได้ในความแตกต่าง ซึ่งนายกฯ ได้หารือกับ ผบ.ตร. ในเรื่องนี้ไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน

นายเศรษฐา บอกอีกว่า เห็นว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญของประเทศให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดมีการคุกคาม เกิดการใช้กำลัง และไม่อยากให้เอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นการเมืองด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง การพูดคุยควรอยู่ในเวทีที่เหมาะสม ซึ่งก็มีตัวแทนของพี่น้องประชาชนในสภา จึงควรใช้เวทีสภาเป็นเวทีพูดคุย ซึ่งเป็นเวทีที่ปลอดภัย และมาตามกระบวนการประชาธิปไตย ทุกฝ่าย ทุกพรรค ได้มีการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ทุกฝ่ายมีตัวแทนอยู่แล้วในสภาก็น่าจะใช้เป็นเวทีพูดคุยกัน

หากใช้เวทีอื่นที่เป็นพื้นที่สาธารณะ (public space) ที่มีคนจำนวนมาก ก็อาจเกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งนายกฯ ไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ซึ่งอาจจะไปสู่สายตาชาวโลกได้ ที่ทุกประเทศมีการอารักขาผู้นำ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุดอยู่แล้ว

นายกฯ ย้ำว่า เรื่องดังกล่าวไม่ควรมีการให้ท้าย ไม่ควรมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง เพราะขบวนเสด็จฯ ท่านทรงมีภารกิจตลอดเวลาทรงงานหนักทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นเรื่องความสำคัญในการเดินทางของพระองค์ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญสูงสุด และทางฝ่ายเห็นต่างควรพูดคุยในเวทีที่ปลอดภัย ถูกต้อง ไม่อยากให้เป็นเวทีที่ใช้คำว่าท้าทาย เวทีสาธารณะที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ที่ถูกต้อง ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ หรือบรรยากาศเช่นนี้อยากแน่นอน

 “เศรษฐา” ย้ำให้ความสำคัญดูแลขบวนเสด็จฯ แนะแสดงออกเวทีที่เหมาะสม

คอนเฟิร์ม “ลิซ่า ลลิษา” ร่วมแสดงซีรีส์ดัง ‘The White Lotus’ ซีซัน 3

แฉกลยุทธ์ใหม่! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคุย 2 นาที-ดูดเงินได้เกลี้ยงบัญชี

เปิดตัวละครใหม่ยัน "น้องพร" โกหกทั้งหมด