KTB หุ้นดิ่งหนัก 13% เซ่นกำไรต่ำกว่าคาดเยอะ โบรกฯหั่นประมาณการปี 67-68
8 แบงก์ไทยอู้ฟู่ ปี 66 กำไรพุ่ง 2.24 แสนล้านบาท รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น คำพูดจาก นสล็อตออนไลน์
ผลประกอบการแบงก์กรุงไทย กำไร 3.6 หมื่นล้านบาท – ไตรมาส 4 กำไรลด
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2566 หุ้น KTB ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตลาดเช้าวันนี้ราคาปรับลดลง 13% แตะถึงระดับ 15.60 บาทต่อหุ้น ต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ก่อนจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16.10 บาทต่อหุ้น
โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา KTB รายงานผลดำเนินงานประจำปี 66 มีกำไรสุทธิ 36,616 ล้านบาท เติบโต 8.7% ผลจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และเฉพาะไตรมาส 4 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 6,111 ล้านบาท ลดลง 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ได้ในไตรมาส 4 ปี 66 ได้มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จำนวน 13,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และรวมทั้งปี 66 ตั้งสำรองฯรวม37,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.4%
บล.เอเซียพลัส ระบุว่า KTB กำไรไตรมาส 4 ปี 66 ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ถึง 38% และตลาด 35% การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตทึ่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) สูงกว่าที่ประเมิน 57% ที่ระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท หลังมีการกันให้กับลูกหนี้รายใหญ่ 1 ราย และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2566 อยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 8%
ด้านมูลหนี้เสีย (NPL) ไตรมาส 4 ปี 66 ยังขยับขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่ 9.9 หมื่นล้านบาท และทำให้อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL / Loan) อยู่ที่ 3.9% เทียบกับ 3.7%ณ สิ้น งวดก่อน
โดยฝ่ายวิจัยประเมินความเปราะบางของคุณภาพสินทรัพย์งวดนี้ อาจไม่ได้มีผลมาจากเพียงลูกหนี้รายใหญ่และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ตามข้างต้น เพียงอย่างเดียว ภายใต้การฟื้นตัวอย่างไม่เท่าเทียมกันของเศรษฐกิจไทย ทั้งภาคส่งออกที่อิงกับจีนและการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐยังต้องรอถึงครึ่งหลังปี 67
ทั้งนี้ได้ปรับลดกำไรสุทธิปี 2567-68 เฉลี่ย 5% สะท้อนการเพิ่มสมมติฐาน ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit cost) ปี 67 ให้อนุรักษ์นิยมขึ้นมาที่ 1.4 และปี 68 มาอยู่ที่ 1.3% รวมถึงปรับเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ให้สะท้อนปี 66 ที่ดีกว่าคาด แต่รวมผลจากมุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยลดลง 1 ครั้งช่วงครั้งหลังปี 67 และรับผลกระทบเต็มปีในปี 2568 โดยรวมกำไรสุทธิปี 2567 –68 เท่ากับ 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% (YoY) และ 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น % (YoY) ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ประมาณการใหม่ อิง GGM ลด ROE ระยะยาวเหลือ 8.9% (เดิม 9.6%) คง COE ที่ 12.6% ให้ PBV เท่ากับ 0.62 เท่า (เดิม 0.72 เท่า) ได้ FV ปี 2567 ที่ 19 บาท (เดิม 22 บาท) เทียบเท่า PER 7 เท่า ต่ำค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2560 ที่ 8.6 เท่า สะท้อนความไม่แน่นอนของคุณภาพสินทรัพย์และปลายทางวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น โดยราคาหุ้นมีโอกาสตอบสนองเชิงลบจาก Negative surprise ของงบ 4Q66 คง คำแนะนำ Neutral จาก Valuation ที่ต่ำทั้ง PBV ที่ 0.6 เท่า และ PER ที่ 6.6 เท่า
เปิดเงื่อนไข กาตาร์ พบ จีน ส่งผลต่อทีมไทย ลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมเอเชียน คัพ 2023
สรุปอันดับโลกวอลเลย์บอลหญิงไทย ก่อนลุยศึกเนชั่นส์ ลีก 2024
อ.ปริญญา ซัดตำรวจจับแพะลุงเปี๊ยก สะท้อนระบบยุติธรรม