กกร.ชงรัฐกระตุก 3 ข้อฝ่าสารพัดปัจจัยเสี่ยง

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กกร.ต้องการเสนอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุนใน 3 ด้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงด้านต่างๆ ทั้งจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนการผลิต การขนส่ง และราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทที่มีการอ่อนค่าลงมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้  จึงขอให้ภาครัฐเร่งรัดใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงเร่งรัดดำเนินโครงการลงทุนร่วมกับภาคเอกชน หรือพีพีพี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่การใช้จ่ายของครัวเรือนอ่อนแอ จากภาวะเงินเฟ้อสูง

นอกจากนี้ขอให้ภาครัฐพิจารณาปรับราคากลางจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้มีความเหมาะสมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการ ที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำงานหรือด้านงานบริการกับภาครัฐ เนื่องจากต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ มีการปรับราคาสูงขึ้นกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้มาก เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และขอให้ภาครัฐอำนวยความสะดวกธุรกิจภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง เช่น การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่คาดหมายว่า หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้

อย่างไรก็ตามกกร.ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 เหลือ 2.75-3.5% ลดลงจากเดิม 2.5-4%  รวมทั้งปรับเพิ่มประมาณการมูลค่าการส่งออกเป็นขยายตัวในกรอบ 5-7% จากเดิม 3-5% และปรับเพิ่มประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเป็น 5-7%  เดิม 3.5-5.5% เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านด้านเศรษฐกิจ “เดิมได้ประเมินเศรษฐกิจไทยยังโตได้ ต้องบริหารจัดการปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะปัจจัยด้านเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนและธุรกิจในวงกว้าง และยังรวมไปถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลต่อต้นทุนทางการเงิน ซึ่งความท้าทายที่เพิ่มขึ้น”คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

ส่วนประเด็นที่ต้องจับตาเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ท่ามกลางความเสี่ยงที่รุมเร้าอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรป มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนและความสามารถในการบริหารต้นทุนของภาคการผลิต ขณะที่ต้นทุนทางการเงินกำลังเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ดังนั้นเศรษฐกิจโลก อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วงครึ่งหลังของปี หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบต่อราคาพลังงานยังไม่มีคลี่คลาย รวมถึงเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างมากจากนโยบายซีโร่โควิดและอาจฟื้นตัวได้ช้า แม้รัฐบาลจีนมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งหมดนี้ทำให้ภาคการส่งออกของไทยเผชิญความท้าทายมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังคำพูดจาก ทดลองสล็อต pg

“อัตราเงินเฟ้อที่สูงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แม้การท่องเที่ยวภายในประเทศจะฟื้นตัวได้ดีถึงระดับกว่า 80% ของภาวะปกติในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแรงส่งเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัวจากช่วงครึ่งปีแรก แต่อัตราเงินเฟ้อที่สูงระดับ 6-8% ช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยทำให้กำลังซื้อของภาคครัวเรือนลดลง และต้นทุนของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการเงินในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย”